.jpg)
สัญลักษณ์
.jpg)
ดาวศุกร์ (อังกฤษ: Venus) เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่
2 ชื่อละตินของดาวศุกร์ (Venus) มาจากเทพีแห่งความรักของโรมัน
ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์หิน มีขนาดใกล้เคียงกับโลก บางครั้งเรียกว่า
"น้องสาว" ของโลก แม้ว่าวงโคจรของดาวเคราะห์ทุกดวงจะเป็นวงรี
วงโคจรของดาวศุกร์จัดว่าเกือบเป็นวงกลม มีความเยื้องศูนย์กลาง (ความรี) น้อยที่สุด
สำหรับวัตถุในธรรมชาติ
ดาวศุกร์เป็นวัตถุท้องฟ้าที่สว่างที่สุดเป็นลำดับที่ 3
รองจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เนื่องจากดาวศุกร์มีวงโคจรใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก
จึงมีมุมห่างจากดวงอาทิตย์ไม่เกิน 47.8° มองเห็นได้เฉพาะในเวลาเช้ามืดหรือหัวค่ำเท่านั้น
ขณะปรากฏในท้องฟ้าเวลาหัวค่ำทางทิศตะวันตก เรียกว่า "ดาวประจำเมือง"
และเมื่อปรากฏในท้องฟ้าเวลาเช้ามืดทางทิศตะวันออก เรียกว่า
"ดาวประกายพรึก" หรือ "ดาวรุ่ง"
ชาวบาบิโลนโบราณรู้จักดาวศุกร์มาตั้งแต่ราว
1,600 ปีก่อนคริสตกาล แต่เชื่อว่าด้วยความสว่างสุกใสของดาวศุกร์
น่าจะเป็นที่รู้จักมาก่อนหน้านั้นนานแล้วนับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
สัญลักษณ์แทนดาวศุกร์ คือ ♀

เป็นดาวเคราะห์ที่ปรากฏสว่างที่สุด
สว่างรองจากดวงอาทิตย์และดวงดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดในระบบสุริยะ
บนดาวศุกร์ร้อนถึง 480 องศาเซลเซียส
ความร้อนขนาดนี้มากจนทำให้ของทุกอย่างลุกแดงดาวศุกร์มีไอหมอกของกรดกำมะถันปกคลุมอย่างหนาแน่น
ไอหมอกนี้ไม่มีวันจางหายแม้ว่าแสงอาทิตย์จะจัดจ้าเพียงไร
จึงเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะไปเยี่ยมดาวศุกร์ เพราะพอไปถึงเขาจะถูกย่างจนสุกด้วยความร้อนและถูกผลักดันด้วยแรงลม
เขาจะหายใจไม่ออกเพราะอากาศหนาหนักที่กดทับตัวนั้นเป็นอากาศพิษจากหมอกควันของกรดอากาศบนดาวศุกร์ประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ซึ่งมีมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศโลกกว่า60เท่าผิวดาวศุกร์แห้งแล้ง
เป็นหินและร้อนจัดนอกจากนี้ก็มีรอยแยกลึกและภูเขาไฟดับ
ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่
2 มีขนาดเล็กกว่าโลกจันทร์ ถ้าเห็นทางทิศตะวันตกในเวลาค่ำเรียกว่า
ดาวประจำเมือง และถ้าเห็นทางทิศตะวันออกในเวลาก่อนรุ่งอรุณ เรียกว่า ดาวประกายพรึก
ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกอย่างรุนแรง
เพราะมีบรรยากาศหนาทึบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ดาวศุกร์จึงร้อนมาก
อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยสูงกว่าดาวพุธ ดาวศุกร์มีโอกาสเข้ามาใกล้โลกที่สุด
ใกล้กว่าดาวพุธ ซึ่งนักดาราศาสตร์ยุคโบราณเข้าใจผิดคิดว่าอยู่ใกล้โลกที่สุด
ลักษณะพิเศษของดาวศุกร์คือ หมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลานานกว่าการเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์
1 รอบ และถ้าเราอยู่บนดาวศุกร์เวลา 1 วัน
จะไม่ยาวเท่ากับเวลาที่ดาวศุกร์หมุนรอบตัวเอง 1 รอบ
นี่คือลักษณะพิเศษที่ดาวศุกร์ไม่เหมือนดาวเคราะห์ดวงใดๆ
นอกจากนี้ดาวศุกร์ยังหมุนตามเข็มนาฬิกาหรือหมุนจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก
ในขณะที่เคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์จากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก
ดาวศุกร์จึงหมุนสวนทางกับดาวเคราะห์ดวงอื่น และหมุนสวนทางกับการเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์
ดาวศุกร์หมุนรอบตัวเองรอบละ 243 วัน แต่ 1 วันของดาวศุกร์ยาวนานเท่ากับ
117 วันของโลก เพราะตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตกยาวนาน 58.5
วันของโลก ดาวศุกร์เคลื่อนรอบดวงอาทิตย์รอบละ 225 วัน
1 ปีของดาวศุกร์จึงยาวนาน 225 วันของโลก
.jpg)
คาบโคจรดาราคติ : 224.70
รัศมีวงโคจรใกล้สุด : 0.72 หน่วยดาราศาสตร์
รัศมีวงโคจรไกลสุด : 0.73 หน่วยดาราศาสตร์
มุมเอียงวงโคจร : 3.4o
เส้นผ่านศูนย์กลางแนวศูนย์สูตร :12,104 กิโลเมตร
ความแป้น : 0
มวล : 0.82 เท่าของโลก
ความถ่วงจำเพาะ : 5.2
อัลบีโด : 0.65
แกนเอียง : 177.3o
คาบการหมุน : 243 วัน 0 ชั่วโมง 14.4 นาที (หมุนถอยหลัง)
ดวงจันทร์บริวาร : -
รัศมีวงโคจรไกลสุด : 0.73 หน่วยดาราศาสตร์
มุมเอียงวงโคจร : 3.4o
เส้นผ่านศูนย์กลางแนวศูนย์สูตร :
ความแป้น : 0
มวล : 0.82 เท่าของโลก
ความถ่วงจำเพาะ : 5.2
อัลบีโด : 0.65
แกนเอียง : 177.3o
คาบการหมุน : 243 วัน 0 ชั่วโมง 14.4 นาที (หมุนถอยหลัง)
ดวงจันทร์บริวาร : -
บรรยากาศของดาวศุกร์ ประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
97% ไนโตรเจน 3.5% ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และ อาร์กอน 0.5%
มีชั้นเมฆคาร์บอนไดออกไซด์ที่หนาทึบมาก
ปกคลุมดาวศุกร์ทั้งดวงทำให้สะท้อนแสงอาทิตย์ได้ดี
จึงเห็นดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่สว่างสุกใสมาก
และยานอวกาศที่ไปสำรวจดาวศุกร์ก็ไม่สามารถถ่ายภาพพื้นผิว โดยตรงได้
ต้องอาศัยคลื่นเรดาห์ผ่านทะลุชั้นเมฆแล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์อีกครั้งอุณหภูมิของดาวศุกร์
ด้วยชั้นเมฆหนาของดาวศุกร์ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก อุณหภูมิบนดาวศุกร์สูงมาก
ประมาณ 500 องศาเซลเซียส
ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
ข้อมูลจำเพาะของดาวศุกร์
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ : 108,208,930 ก.ม.0.72333199 A .U.
หมุนรอบตัวเอง : 243.0187 วัน ( หมุนกลับหลัง )
หมุนรอบดวงอาทิตย์ : 225 วัน
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 12,103.6 ก.ม. (0.9488 เท่าของโลก )
ปริมาตร : 0.88 เท่าของโลก
มวล : 4.8690 * 1024 ก.ก.
ความหนาแน่น : 5250 ก.ก. / ม.3
ความเร่งที่พื้นผิว : 887 ซ.ม./ วินาที 2
ความเร็วเฉลี่ย : 35.0214 ก . ม./ วินาที
ความเร็วการผละหนี : 10.36 ก . ม./ วินาที
ความรีของวงโคจร : 0.00677323
ความเอียงระนาบวงโคจร : 3.39471 องศา
ความเอียงของแกนหมุน : 177.3 องศา
อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ย : 730 องศาเคลวิน
ก๊าซในชั้นบรรยากาศ : Carbondioxide (CO2) 96%
Nitrogen (N2) 3%
water vapor 0.003%
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ : 108,208,930 ก.ม.
หมุนรอบตัวเอง : 243.0187 วัน ( หมุนกลับหลัง )
หมุนรอบดวงอาทิตย์ : 225 วัน
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 12,103.6 ก.ม. (0.9488 เท่าของโลก )
ปริมาตร : 0.88 เท่าของโลก
มวล : 4.8690 * 1024 ก.ก.
ความหนาแน่น : 5250 ก.ก. / ม.3
ความเร่งที่พื้นผิว : 887 ซ.ม./ วินาที 2
ความเร็วเฉลี่ย : 35.0214 ก . ม./ วินาที
ความเร็วการผละหนี : 10.36 ก . ม./ วินาที
ความรีของวงโคจร : 0.00677323
ความเอียงระนาบวงโคจร : 3.39471 องศา
ความเอียงของแกนหมุน : 177.3 องศา
อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ย : 730 องศาเคลวิน
ก๊าซในชั้นบรรยากาศ : Carbondioxide (CO2) 96%
Nitrogen (N2) 3%
water vapor 0.003%
โครงสร้างของดาวศุกร์
เปลือกชั้นนอกของดาวศุกร์
จะเป็นชั้นของหินซิลิเกตมีหลุมอุกกาบาตไม่มาก มีที่ราบขนาดใหญ่สองแห่งคือ ที่ราบอะโฟรไดท์
( Aphrodite) ขนาดราวทวีปอัฟริกา และที่ราบอิชทาร์ (Ishtar)
ขนาดราวทวีปออสเตรเลีย และมีแนวภูเขาเหยียดยาว
กับปล่อยภูเขาไฟที่พ่นธารลาวาออกมา ชั้นกลางเป็นหินกับโลหะ ส่วนแกนกลาง
เป็นเหล็กและนิเกิลที่หลอมเหลว
ที่มาภาพ : http://www.krudang.com/doodaw/pic/venus.jpg
การสำรวจดาวศุกร์ โดยยานอวกาศ
ยานอวกาศลำแรกที่ถ่ายภาพเมฆดาวศุกร์ได้ คือยานอวกาศของสหรัฐอเมริกา
ชื่อยานมารีเนอร์ 10 เมื่อ 5 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2517 ยานอวกาศลำแรกที่ได้ถ่ายภาพพื้นผิวดาวศุกร์ได้ คือยานอวกาศเวเนรา
9 ของรัสเซีย ซึ่งลงสัมผัสพื้นผิวของดาวศุกร์เมื่อ 21 ตุลาคม
พ.ศ. 2518 ต่อมามียานอวกาศไปสำรวจดาวศุกร์อีกหลายลำ
ลำล่าสุดที่ถ่ายภาพโดยอาศัยระบบเรดาร์ คือยานแมกเจลแลน เมื่อ 29 ตุลาคม
พ.ศ. 2534
เมื่อ พ.ศ. 2170 โจฮันส์
เคปเลอร์ เป็นนักดาราศาสตร์คนแรกที่คำนวณได้ล่วงหน้าว่า
จะเกิดปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ในวันที่ 6 ธันวาคม
พ.ศ. 2174 ต่อมาในปี พ.ศ. 2259 เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์
ได้คำนวณการเกิดปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ในปี พ.ศ. 2304 และ
2312 พร้อมเสนอว่า สามารถใช้ปรากฏการณ์นี้ในการวัดระยะทาง
1 หน่วยดาราศาสตร์ได้
ยานอวกาศที่สำรวจดาวศุกร์
มีด้วยกันหลายลำได้แก่
1. มาริเนอร์ 2 เมื่อ 14 ธันวาคม 2505
2. เวเนรา 4 18 ตุลาคม 2510
3. เวเนรา 7 15 ธันวามคม 2513
4. มาริเนอร์ 10 5 กุมภาพันธ์ 2517
5. เวเนรา 9 23 ตุลาคม 2518
6. เวเนรา 15 10 ตุลาคม 2526
7.ไพโอเนียร์-วีนัส 2 9 ธันวาคม 2521
8. แมกเจลแลน 10 สิงหาคม 2533
1. มาริเนอร์ 2 เมื่อ 14 ธันวาคม 2505
2. เวเนรา 4 18 ตุลาคม 2510
3. เวเนรา 7 15 ธันวามคม 2513
4. มาริเนอร์ 10 5 กุมภาพันธ์ 2517
5. เวเนรา 9 23 ตุลาคม 2518
6. เวเนรา 15 10 ตุลาคม 2526
7.ไพโอเนียร์-วีนัส 2 9 ธันวาคม 2521
8. แมกเจลแลน 10 สิงหาคม 2533
ที่มา : http://www.student.chula.ac.th/~50370299/venus.htm http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%8C
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น